หากถามคนไทย หรือต่างชาติส่วนมากเวลาที่ใครไปญี่ปุ่นก็มักจะแนะนำให้ซื้อบัตร IC เพราะสามารถใช้ได้ทั้งกับรถไฟฟ้า รถบัส และร้านสะดวกซื้อได้ทั่วประเทศญี่ปุ่น
แต่เชื่อว่าคนส่วนมากที่ยังไม่เคยไป และอาจจะกำลังหาข้อมูลอยู่ ต้องมีคนที่งงแน่นอนครับว่า บัตร IC มันคือบัตรอะไร เพราะเวลาไปหาข้อมูลก็มักจะไม่เจอ และไม่มีใครอธิบายไว้
- เดี๋ยววันนี้จะมาอธิบายแบบละเอียดให้ฟัง ในเวอร์ชั่นที่เข้าใจง่ายครับ
บัตร IC มันคืออะไรหว่า
บัตร IC (ไอซี) เป็นบัตรอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้งานได้หลากหลายครับ ไม่ว่าจะเป็นขนส่งสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า รถบัส หรือจะเป็นการซื้อของในร้านต่างๆที่รองรับบัตรนี้
- เข้าใจแบบง่ายๆว่าเป็นบัตร Rabbit บ้านเรา แต่สามารถใช้ได้กับรถไฟทุกสายไม่ต้องเปลี่ยนเหมือนที่ไทย บัตรเดียวจบไปเลย และยังสามารถใช้จ่ายเงินได้ด้วยครับ
ที่นี้ไปกันต่อครับ
เจ้าตัวบัตร IC ซึ่งคำว่า IC เนี่ยเป็นคำเรียกบัตรประเภทนี้เฉยๆครับ เรียกรวมๆว่า IC ไม่งงกันใช่ไหมครับ แต่สำหรับใครที่งงเดี๋ยวอ่านด้านล่างก็รู้เรื่องแล้วครับ
สำหรับบัตรนี้ จะสามารถซื้อได้ตามสถานีหรือสนามบินเลยครับ โดยจะแบ่งชื่อเรียกที่แตกต่างกันไปตามภูมิภาคของญี่ปุ่น
เริ่มกันที่ 2 บัตรแรกที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศกันก่อนครับ
Suica
- พื้นที่ใช้งานหลัก: โตเกียวและพื้นที่ที่ให้บริการโดย JR East
- ลักษณะเด่น: ใช้ได้กับรถไฟ รถบัส ร้านสะดวกซื้อ และตู้หยอดเหรียญ
PASMO
- พื้นที่ใช้งานหลัก: โตเกียวและระบบรถไฟเอกชน
- เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้ระบบขนส่งที่ไม่ได้บริหารโดย JR เช่น Tokyo Metro
จะสังเกตได้ว่าทั้ง 2 บัตรนี้ชื่อเรียกก็ไม่เหมือนกันครับ แต่โดยรวมยังเรียกว่าบัตร IC นั่นเองครับ เดี๋ยวไปต่อกันที่บัตรที่สามารถใช้ได้สำหรับภูมิภาคเท่านั้นดูครับ
ICOCA (JR West)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: โอซาก้า เกียวโต และพื้นที่ให้บริการโดย JR West
PiTaPa (เอกชน Kansai)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: โอซาก้า เกียวโต และโกเบ
- แตกต่าง: ต้องสมัครสมาชิก ไม่มีแบบเติมเงิน
TOICA (JR Central)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: นาโกย่าและพื้นที่ให้บริการโดย JR Central
Kitaca (JR Hokkaido)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: ฮอกไกโด
SUGOCA (JR Kyushu)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: คิวชู
manaca (Meitetsu และ Nagoya City)
- พื้นที่ใช้งานหลัก: นาโกย่า
nimoca (ฟุกุโอกะและพื้นที่ Kyushu เอกชน)
Hayakaken (ฟุกุโอกะ Metro)
หากดูแล้วไม่มีบัตรไหนที่ชื่อเหมือนกันเลยครับ ซึ่งบัตรทั้งหมดนี้ก็เรียกว่าบัตร IC ครับ ถึงชื่อจะไม่ใช่ IC แต่อยู่ในหมวดหมู่บัตร IC ของประเทศญี่ปุ่นนั่นเองครับ น่าจะหายงงกันแล้วใช่ไหมครับ
- อย่างบัตร Suica ก็เป็นบัตร IC ถ้าซื้อที่โตเกียวจะได้เป็นบัตร Suica มาครับ
- แต่ถ้าเราไปซื้อที่โอซาก้า ก็จะได้บัตร ICOCA มาครับ ซึ่งก็เป็นบัตร IC เหมือนกัน
พอเห็นภาพกันไหมครับ แต่ผมเชื่อว่าต้องเห็นภาพแล้วแน่นอน ใครอยากรู้เรื่องของวิธีการซื้อ ค่าธรรมเนียม และการคืนบัตรก็สามารถอ่านต่อได้ที่ด้านล่างได้เลยครับ
การซื้อบัตร IC
สถานที่ซื้อบัตร
- สถานีรถไฟ: จุดขายตั๋วอัตโนมัติและเคาน์เตอร์บริการ (เช่น JR Ticket Office)
- สนามบิน: จุดจำหน่ายตั๋วของ JR และเคาน์เตอร์บริการ
- ร้านสะดวกซื้อ: บางบัตร เช่น PASMO หรือ Suica สามารถซื้อได้ในร้านสะดวกซื้อใหญ่
ค่าธรรมเนียมบัตร
- ราคาบัตรปกติ: 2,000 เยน
- 500 เยน (เงินมัดจำ คืนได้เมื่อคืนบัตร)
- 1,500 เยน (ยอดเงินในบัตร)
บัตรประเภทพิเศษ บัตร Welcome Suica (ไม่มีเงินมัดจำ):
- ออกแบบมาสำหรับนักท่องเที่ยว
- ใช้งานได้สูงสุด 28 วัน
- ซื้อได้ที่สนามบินนาริตะ, ฮาเนดะ และสถานี JR หลักในโตเกียว
การคืนบัตร
- คืนบัตรได้ที่สถานีรถไฟหลักในเครือของบัตรนั้น
- เงินมัดจำ 500 เยนจะถูกคืนให้ และยอดเงินในบัตร (หักค่าธรรมเนียมการคืน 220 เยนในบางกรณี)
ข้อควรรู้ของบัตร IC
- หากใช้บัตรหมด (ยอดเงินเป็น 0 เยน) จะไม่สามารถผ่านประตูรถไฟได้ ต้องเติมเงินก่อน
- บัตร IC มีอายุการใช้งานนาน (ประมาณ 10 ปีจากการใช้งานครั้งสุดท้าย)
- ใครที่มีแพลนไปญี่ปุ่นหลายๆครั้งก็สามารถเก็บบัตรไว้ได้ครับ แต่สำหรับใครอยากจะซื้อบัตรที่มีลวดลายสวยงามก็สามารถซื้อบัตรแบบพิเศษได้ครับ แล้วครั้งหน้าก็ค่อยมาซื้อเพิ่มก็ได้ครับ